วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2552

สสปน.รุกโรดโชว์ต่างประเทศหวังดึงงานเทรดมาลงเมืองไทย




สสปน.รุกโรดโชว์ต่างประเทศหวังดึงงานเทรดมาลงเมืองไทย


โดย บิสิเนสไทย [25-8-2005]

สสปน. เร่งสปีดมีก๊อก 2 หวังเร่งแรงแซงทางโค้ง ก่อนสิ้นปีอุตฯ ไมซ์ 7 แสนคน ฝันนั้นเป็นจริงแน่ อัดฉีดทีมงานตามตื๊อชนิดหายใจ รดต้นคอประเทศเป้าหมายไปยังผู้มีอำนาจตัดสินใจ เดินทางออก นอกบ้านเจาะตลาดย่านเอเชีย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น โดยมีประเทศในแถบยุโรปเป็นตัวช่วยเสริมแรง จับตลาดองค์กรการท่องเที่ยวเชิงรางวัล สู่ตลาด ออโตโมทีฟ, ยา, ประกัน ในทุกประเทศเป้าหมายที่รุกคืบเข้าไปเปิดตัว

นางมาลินีย์ กิตะพาณิชย์ ผู้อำนวย- การฝ่ายส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลและการประชุม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดเผยถึงแผนงานในครึ่งปีหลังว่า จะรุกหนักตลาดในแถบเอเชีย เน้นไปยังประเทศจีนและอินเดีย ขณะที่ตลาดทั้ง M และ I จากวิกฤตการณ์ราคาน้ำมันและสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่มีความนิ่ง ส่งผลกระทบให้บริษัทและองค์กรภายในประเทศควบคุมงบประมาณการใช้จ่าย จัดการประชุมในเชิงการท่องเที่ยวกลุ่ม เล็กลงและภายในช่วงเวลาไม่กี่วัน

สำหรับตัวเลขตลาดไมซ์ในปี 2547 ที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มเป้าหมายที่เดินทางเข้าร่วมประชุมใน อุตฯ ไมซ์ทั้งระบบมีจำนวนทั้งสิ้น 400,000 คน โดยตั้งเป้าในปี 2548 ไว้ที่จำนวน 700,000 คน ในส่วนของตลาด M, I ในช่วง ครึ่งปีหลัง ทางสสปน.ยังมีงานเทรดโชว์อีก 2 งาน ทั้งในฝั่งอเมริกาและยุโรป ที่จะต้องเดินทางออกเป้าหมายที่มีอำนาจในการตัดสินใจ เพื่อเตรียมการที่จะดึงงานดังกล่าวเข้ามาจัดขึ้นภายในประเทศไทยในครั้งต่อไป

“ทั้ง 2 งาน ที่สสปน.เตรียมที่จะ เข้าไปคือ งาน Motivation Show หรือ ITME ที่ชิคาโก สหรัฐอเมริกา และงาน EIBTM ที่บาเซโลนา สเปน เป็นงาน The Global Meetings & Incentive Exhibition ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่สสปน.ยังไม่เคยเข้าไปทำตลาด การออกไปโรดโชว์ในครั้งนี้ สสปน.จะไปกันเป็นทีมพบกับผู้ซื้อโดยตรงที่เรียกว่า Meeting Planner”

นางมาลินีย์ ยังกล่าวถึงแผนการทำ ตลาดในประเทศญี่ปุ่นในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า จากการเดินทางไปเปิดตลาดในประเทศญี่ปุ่น ผลเป็นที่น่าพอใจแต่ทางสสปน.จะต้องเดินทางกลับไปเจรจาอีกครั้งในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ เพราะช่วงเวลาในการตัดสินใจของชาวญี่ปุ่นจะอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนของทุกปี

“ตลาด M, I จะเน้นประเทศที่อยู่ รอบๆ เมืองไทย ซึ่งมีอยู่ 5 ประเทศ ที่ต้องเร่งเข้าไปทำตลาดเพื่อดึงคนเข้ามา ประกอบด้วย จีน, อินเดีย, เกาหลี, ญี่ปุ่น และไต้หวัน ซึ่งจะมีความถี่ที่จะเข้ามาประชุมในเมืองไทยสูงกว่า เมื่อเทียบกับประเทศในแถบยุโรป จะมีการตัดสินใจที่นานเพราะอยู่ไกล แต่ถ้าเพิ่มความถี่ออกไปพบลูกค้า ไม่ใช่ไปครั้งเดียวแล้วหาย และเน้นไปยังตลาดองค์กรทุกประเภท เช่น กลุ่มออโตโมทีฟ, ยา, ประกัน กลุ่มเป้า-หมายก็คือดีลเลอร์ ซึ่งองค์กรเหล่านี้จะมีการท่องเที่ยวเชิงรางวัลจัดให้กับพนักงานที่นำความสำเร็จมาสู่องค์กรทุกปี”

นอกจากนี้ สสปน.ยังให้การสนับสนุน การจัดประชุมและการจัดงานมอบรางวัลให้กับนักขายมือทอง ของวงการธุรกิจการเงินและการประกันชีวิตทั่วโลกของจีน หรือ The Annual International Dragon Award (IDA) โดยการสนับสนุนจากบริษัทไอเอ็มเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล เจ้าภาพในงานครั้งนี้ ซึ่งจะมีผู้เข้าร่วมในงาน 2,200 คน ที่จังหวัดเชียงใหม่ในช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ณ ปางสวนแก้ว จังหวัดเชียงใหม่ คาดว่าผลการดำเนินการในครั้งนี้ จะมีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

นายทรงวิทย์ อิทธิพัฒนากุล นายก- สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ กล่าวว่า การประชุมและการจัดงานมอบรางวัลให้กับนักขายมือทอง ของวงการธุรกิจการเงินและการประกันชีวิตทั่วโลกของจีน หรือ (IDA) ขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่นี้ คาดว่าผู้เข้าร่วมประชุมในลักษณะของการท่องเที่ยวเชิงรางวัล (Incentive) จะมีการใช้จ่ายต่อหัวประมาณ 3,100 บาท/คน/วัน และหากมีการเปิดเส้นทางบินตรงจากกลุ่มเป้าหมายประเทศจีนบินตรงเข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่มากขึ้น อย่างเช่น เซี่ยงไฮ้ กวางเจา ก็จะเป็นการเปิดประตูสู่การแหล่งท่องเที่ยวในแถบภาคเหนือของไทยได้ในอีกระดับหนึ่ง

“ผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้มีผู้บริหาร ระดับซีอีโอมากกว่า 100 บริษัท ซึ่งมีอำนาจการตัดสินใจที่จะพาทีมงานของเขาเดินทางท่องเที่ยวในเชิงรางวัล หากทั้ง 100 บริษัท ภายใน 5 ปี เดินทางเข้ามายังประเทศไทยเฉลี่ยปีละ 20 บริษัท พร้อมกับพนักงานบริษัทละ 500-1,000 คน เป็นอย่างต่ำ ก็จะเกิดปริมาณเงินหมุนเวียนทางการท่องเที่ยว แต่เชียงใหม่ยังไม่มีศูนย์-ประชุมที่รองรับปริมาณคนเกิน 2,500 คน แต่ในอนาคตได้มีการเตรียมสถานที่เพื่อสร้างเป็นศูนย์ประชุมซึ่งอยู่ใกล้กับสนามกีฬา 700 ปี”


Resource:http://www.businessthai.co.th/bt/content.php?data=409380_Marketing

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น